Toyota Cross รุ่นปรับโฉม เครื่อง 1.8 เริ่ม 9.99 แสนบาท ตัวท็อป Hybrid 1.254 ล้านบาท

Toyota Cross รุ่นปรับโฉม มีการเปลี่ยนกระจังหน้า และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากับ 4 รุ่นย่อย แบ่งเป็นเครื่อง 1.8 ลิตร ราคา 9.99 แสนบาท กับเครื่อง Hybrid เริ่มต้น 1.094 ล้านบาท และ 1.204 ล้านบาท สูงสุดที่ 1.254 ล้านบาท

Toyota กับการเขย่าตลาด SUV ด้วย Corolla Cross ใหม่

หลังจากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ SUV รุ่น Corolla Cross ครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย เมื่อปี 2020 ปัจจุบันได้ผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ผ่านยอดขายสะสมที่ 71,160 คัน ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2020 ถึง เดือน ธ.ค. ปี 2023

ล่าสุด Toyota ส่ง Corolla Cross ใหม่ มีการปรับปรุงทุกรุ่นย่อย เช่น ดีไซน์กระจังหน้า “Multi-Dimensional Design” ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่ และ ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ Sequential หลังคา Panoramic Roof รวมทั้ง ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake และระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold

ศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า Corolla Cross ใหม่ จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริหาร และครอบครัวรุ่นใหม่ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยคอนเซปท์ “Complete your life ตอบ…ทุกความหมายชีวิต” โดยตั้งเป้าหมาย Corolla Cross ใหม่ที่ 1,500 คัน/เดือน เริ่มส่งมอบวันที่ 9 ก.พ. 2024

Corolla Cross ใหม่ มีสองเครื่องยนต์ให้เลือกเช่นเดิม ผ่านราคาดังนี้

  • HEV GR-Sport ราคา 1,254,000 บาท
  • HEV Premium Luxury ราคา 1,204,000 บาท
  • HEV Premium ราคา 1,094,000 บาท
  • 1.8 Sport Plus ราคา 999,000 บาท

ส่องภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยผ่านสายตา Toyota

โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยต้องเผชิญความยากลำบากและการเปลี่ยนแปลงมากมาย ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยลดลง 9% 

โดยเฉพาะเซกเมนต์รถกระบะที่ลดลงถึง 32% ในขณะที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีนได้เข้าสู่ตลาด และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 5% ถึง 11% ซึ่งภายใต้ส่วนแบ่งตลาดดังกล่าว สัดส่วนการขายของรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) เติบโตขึ้นจาก 1% เป็น 10%

อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว โตโยต้ายังคงมีรถหลายรุ่น ได้แก่ คัมรี ฟอร์จูนเนอร์ เวลอซ และไฮเอซ ที่เป็นผู้นำในเซกเมนต์ต่างๆ นอกจากนั้น ยาริสและเอทีฟก็สามารถครองตำแหน่งยอดขายอันดับหนึ่งในเซกเมนต์อีโคคาร์ด้วยส่วนแบ่งตลาด 45% สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา 

สำหรับเซกเมนต์รถอเนกประสงค์ SUV โตโยต้ากลับมาครองยอดขายสูงสุดในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาหลังจากการแนะนำยาริส ครอส รวมถึง รถกระบะไฮลักซ์ รีโว่ ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 40% เป็นสัดส่วนที่สูงสุดนับตั้งแต่ พ.ศ. 2554 เป็นต้นมา

ทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของโตโยต้าอยู่ที่ 34.3% สูงที่สุดนับตั้งแต่พ.ศ. 2558 และสูงกว่า พ.ศ. 2565 ที่ 0.3% โดยในปีที่ผ่านมา ส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV ในประเทศไทยได้เติบโตแบบก้าวกระโดด อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ไฮบริด (HEV) ก็เติบโตขึ้น 

และยังกลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของลูกค้าชาวไทย สำหรับประเภทรถยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ด้วยเหตุผลที่สามารถใช้งานได้จริงอย่างเหมาะสม ลูกค้ามีความอุ่นใจขณะใช้งาน และมีค่าบำรุงรักษาต่ำ รวมไปถึงมีมูลค่าในการขายต่อที่ดี โดยในปีที่แล้ว ส่วนแบ่งตลาดของรถไฮบริด อยู่ที่มากกว่า 12% และในไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 17%

อีกหนึ่งกระแสสำคัญในประเทศไทย คือ ความนิยมในรถยนต์ประเภท SUV โดยในปีที่แล้วนั้น ส่วนแบ่งตลาดของ SUV เพิ่มขึ้นที่ 38% แม้ว่าตลาดรถยนต์รวมจะหดตัวลง 9% ทั้งนี้เนื่องมาจากประโยชน์ใช้สอยของรถ SUV เอง ที่สามารถตอบสนองรูปแบบการใช้งานอันหลากหลาย ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันในรูปแบบคนเมือง จนถึงการออกไปใช้ชีวิตแบบผจญภัยในช่วงวันหยุด

ขอขอบคุณบทความจาก : brandinside